🇯🇵 ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศยอดฮิตตลอดกาลที่นักท่องเที่ยวมากมายต้องการไปเที่ยว❤️❤️❤️ ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไปกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ🌸 🍡〰️ ที่เที่ยวญี่ปุ่นก็มีหลากหลายรูปแบบทั้งเที่ยวแบบธรรมชาติ🎐 🍶 🎌 อย่างแหล่งออนเซ็นที่ขึ้นชื่อ วัดดัง สวนสนุกต่างๆ มากมาย(人´∀`*)⛩️ 🏯 จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหยที่น่าสนใจ ในปี 2023 นี้บ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดู ตามมาเช็คอินกันเลยดีกว่าค่ะ✅❕
🗼 สนใจจองทัวร์ญี่ปุ่น🇯🇵 Click 👺
🎎 ขั้นตอนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น 2023 🇯🇵✅
ในการท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น🎌 🗾 ผู้ถือพาสปอร์ตสัญชาติไทย ได้ฟรีวีซ่า 15 วัน🎑🧧❤️❤️ และควรลงทะเบียนผ่านเว็บ Visit Japan Web ให้เรียบร้อยก่อนเที่ยวญี่ปุ่น 〰️ เพื่อให้สามารถผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการที่ศุลกากรได้อย่างรวดเร็ว🧾💻🔌 และหากเราสามารถทำได้ครบถ้วนทั้ง 4 ขั้นตอน ทุกท่านก็สามารถเข้าเข้าไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่น สนุกสนานและมีความสุขกันได้เลยย 4 ขั้นตอนมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ✅❤️❕
- ลงทะเบียนเที่ยวญี่ปุ่น 2023 ใน Visit Japan Web💻 ในข้อมูล Immigration (Disembarkation Card) และ Customs Declaration
- พิจารณาเลือกประกันภัยเดินทาง✔️ : ในกรณีที่เราป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ประกันก็จะดูแลได้อย่างครอบคลุม ซึ่งควรซื้อก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 ชั่วโมง (หากเดินทางไม่เกิน 7 วันเบี้ยประกันจะมีราคาที่หลักร้อยถึงพันต้น ๆ เท่านั้นเอง)
- ยื่นข้อมูลลงทะเบียน📑 : ใช้ QR Code ที่ได้จากการลงทะเบียนเที่ยวญี่ปุ่น 2023 เพื่อยื่นในจุดต่าง ๆ
🎌 🎐 เที่ยวญี่ปุ่น เดือนไหนดี ❔
ถ้าหากชอบอากาศที่เย็นสบาย แนะนำช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. – พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) และยังเหลือเวลาเดือน กันยายน-พฤศจิกายนให้เที่ยวแบบไม่รู้สึกลำบากเกินไปสำหรับคนไทย ซึ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิเราก็จะได้ชมดอกไม้ที่สวยงามตามจุดต่างๆ ส่วนใบไม้ร่วง จะเป็นช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งจะมีเวลาแตกต่างกันออกไป
🍂 ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ในแต่ละเดือน 🍁☁️
- 🍁 ซัปโปโร : ปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม
- 🍂 อาโอโมริ : กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม
- 🍁 เซนได : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
- 🍂 นีงาตะ : ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
- 🍁 โทจิงิ, นิกโก้ : ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
- 🍂 โตเกียว : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- 🍁 นาโกย่า : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
- 🍂 โอซาก้า, เกียวโต : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- 🍁 ฮิโรชิม่า : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- 🍂 คากาว่า : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- 🍁 ฟุกุโอกะ : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
- 🍂 โออิตะ : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
❕ ปักหมุด เช็คอิน📌🇯🇵 สถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ห้ามควรพลาด 🗼 🗻
1. ภูเขาไฟฟูจิ🗻 (Mount Fuji : 富士山)
ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain)🗻❕ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดใน ประเทศญี่ปุ่น ราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของ โตเกียว〰️🌄🍃 พื้นที่โดยรอบประกอบด้วย ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า อุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ และน้ำตกชิราอิโตะ🌊🌫️ โดยในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นจากโตเกียวได้ ในปัจจุบันภูเขาได้ถูกจัดโดยนักวิทยาศาสตร์อยู่ในลักษณะของภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ ระเบิดครั้งล่าสุดใน พ.ศ. 2250 (ค.ศ. 1707) ยุคเอโดะ 🥷 🎐
🗻 ภูเขาไฟฟูจิ (*˘︶˘*).。.:*♡ มีชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า “ฟูจิซัง” ซึ่งในหนังสือในสมัยก่อนเรียกว่า “ฟูจิยามะ” เนื่องจากตัวอักษรคันจิตัวที่ 3 (山) สามารถอ่านได้ 2 แบบทั้ง “ยามะ” และ “ซัง” ❕㍿ 🍙
2. พระราชวังอิมพีเรียล🏯 (Imperial palace : 皇居)
พระราชวังหลวง เป็นที่ประทับหลักของจักรพรรดิญี่ปุ่น🏯❕ เป็นพื้นที่คล้ายสวนขนาดใหญ่อยู่ในเขตชิโยดะ กรุงโตเกียว ใกล้กับสถานีรถไฟโตเกียว🚈 ประกอบด้วยพระราชมนเทียร พระตำหนักของพระราชวงศ์〰️🌄 พิพิธภัณฑ์ของสะสมในพระองค์🎌🗾㍿ สำนักพระราชวังหลวง และอุทยานต่างๆ (´⌣`ʃƪ)
พระราชวังนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมของปราสาทเอโดะซึ่งเป็นที่อยู่ของโชกุนจากตระกูลโทกูงาวะ〰️ พระราชวังเดิมถูกระเบิดทำลายลงไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 🪧👘☁️ และได้รับการบูรณะใน ค.ศ. 1964 พื้นที่โดยรวมมีขนาด 1.15 ตารางกิโลเมตร ในช่วงสูงสุดของภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่เมื่อ ค.ศ.1980 มีผู้ประเมินราคาพื้นที่พระราชวังไว้ว่า สูงยิ่งกว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในแคลิฟอร์เนีย ❕
3. ปราสาทมัตสึโมโตะ🏯 (Matsumoto Castle : 松本城)
ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) ตั้งอยู่ภายในเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) จังหวัดนากาโนะ (Nagano)🏯 สร้างขึ้นมาราวศตวรรษที่ 16 – 18 เท็นชุคาคุ (*1) (⋈◍>◡<◍)。✧♡ หรือป้อมปราการที่ตั้งตระหง่านนี้ว่ากันว่าเป็นเท็นชุคาคุหลังคา 5 ชั้น พื้น 6 〰️ ชั้นที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน 🪧❕🗻 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ พื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในปราสาทก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติ 💬❕
จุดเด่นของปราสาทมัตสึโมโตะอยู่ที่กำแพงสีดำของเท็นชุคาคุ☁️☁️🖤 เลยมีชื่อเรียกว่า คาราซุโจ แปลว่า ปราสาทอีกา🐦⬛ ตรงข้ามกับปราสาทฮิเมจิที่มีกำแพงสีขาว เลยถูกเรียกว่า ชิราซากิโจ ปราสาทนกกระยาง 🪶🍃🪹
4. ปราสาทโอซาก้า🏯 (Osaka castle : 大阪城)
ปราสาทโอซาก้า🏯 ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1931 แต่ถูกใช้เป็นคลังแสงจึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ตกเป็นเป้าหมายหลักในการโจมตีของกองทัพอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ☁️☁️ ทำให้หอคอยที่เพิ่งสร้างใหม่พังทลายอีกครั้ง จนในปี ค.ศ. 1995 🎌🗾㍿ ทางเทศบาลนครโอซาก้าได้เริ่มต้นโครงการบูรณะปราสาทอีกครั้ง〰️ และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปราสาท🎌 อีกทั้งยังเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยือน สวนและต้นไม้รอบๆ ปราสาทก็เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ❤⃛῍̻̩✧(´͈ ૢᐜ `͈ૢ) 🖤 หากมาในช่วงเดือนมีนาคมจะเห็นดอกบ๊วยบาน และหากมาในช่วงเดือนเมษายนจะได้ชมดอกซากุระ 🌸
5. ปราสาทฮิเมจิ🏯 (Himeji Castle : 姫路城)
ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)🏯 ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีความเก่าแก่ และงดงามที่สุดของประเทศ🌸🎌 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้านวัฒนธรรมจากยูเนสโก❤(ꈍॢ ⁻̫ ꈍॢ)ʸº และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ของการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรม กับความก้าวหน้าด้านวิศวกรรมในยุคนั้น มีอายุราว 400 ปี เฉิดฉายด้วยสีขาวบริสุทธิ์☁️🤍🤍 สมกับนามปราสาทนกกระยางขาว ที่มีทั้งความอ่อนช้อย สง่างาม และแข็งแกร่งในรูปลักษณ์เดียวกัน 💬❕
🏯 โครงสร้างภายใน ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ออกแบบเป็นป้อมปราการที่ข้าศึกไม่เคยพิชิตได้ นอกจากนั้น ยังได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ในช่วงฤดูดอกไม้ผลิ🌸🌸🌸 รอบปราสาทจะเต็มไปด้วยต้นซากุระ จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยว 🪅✨〰️
6. ปราสาทสึรุกะ🏯 (Tsuruga Castle : 鶴ヶ城)
ปราสาทสึรุกะ (鶴ヶ城) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ปราสาทนกกระเรียน🏯” โดยคำว่า “สึรุ” ที่แปลว่า “นกกระเรียน” เดิมเคยมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น (/∇\*)。o○♡ แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ให้เหลือเพียง 5 ชั้นเท่านั้น🎐 🇯🇵 ㍿ แต่ยังคงความเป็นปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่นเอาไว้ด้วยการปูกระเบื้องสีแดงบนหลังคา❕〰️ พื้นที่ในปราสาทได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงประวัติความเป็นมา รวมถึงวิถีชีวิตของเหล่าซามูไร🥷 ข้าวของเครื่องใช้ ศิลปะและวัฒนธรรมในสมัยก่อน ที่ชั้นบนสุดของตัวปราสาทจะเป็นชุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาบันไดได้ 🚆☁️🌫️
🏯 นอกจากนี้บริเวณสวนภายในปราสาทยังมีเรือนน้ำชารินคาคุที่ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีชงชาของขุนนางศักดินา 🇯🇵🍵 และที่สำคัญสวนแห่งนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นจุดชมซากุระ🌸🌸ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นที่จะมีซากุระกว่า 1,000 ต้นผลิบานอย่างสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ☁️🍂🪹
7. เจดีย์ยาซากะ – วัดโฮคันจิ🏯 (Hokan-ji Temple : 法観寺)
เจดีย์ยาซากะเป็นเจดีย์ห้าชั้น ความสูง 49 เมตร สร้างขึ้นใน ค.ศ. 592 โดยเจ้าชายโชโทคุ ไทชิ🫅 ซึ่งนับว่าถูกสร้างขึ้นก่อนที่กรุงเกียวโตจะกลายเป็นเมืองหลวงในปี✨ ค.ศ. 794 อีกด้วย❕〰️ โดยทั้งวัดโฮคันจิและเจดีย์ยาซากะเคยพังทลายเพราะถูกไฟไหม้และมีการสร้างขึ้นมาใหม่หลายต่อหลายครั้ง (°◡°♡).:。🏯 โดยตัวเจดีย์ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1440 โดยโชกุนโยชินาริ อาชิทากะ แต่อาคารอื่นๆของวัดโฮคันจิไม่ได้รับการบูรณะขึ้นมาด้วย ทำให้เจดีย์ยาซากะตั้งอยู่อย่างโดดเด่นในย่านนี้มาจนถึงปัจจุบัน ☁️🍂🪹
เจดีย์ยาซากะ วัดโฮคันจิ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของกรุงเกียวโต 🎌 🗾 🎏 ที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายจำนวนมาก ด้วยลักษณะเจดีย์โบราณห้าชั้นสไตล์ญี่ปุ่น✨ โดดเด่นอยู่ท่ามกลางย่านเมืองเก่าฮิกาชิยาม่า และสามารถเดินต่อไปยังวัดน้ำใส คิโยมิซุ จึงทำให้เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก 🇯🇵 ㍿ ตั้งอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น 👍👍👍
8. นาราปาร์ค🦌 (Nara park : 奈良公園)
สวนสาธารณะนารา (Nara Park 奈良公園)🏞️🌳🍃 เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 3,130 ไร่ ใจกลางเมือง นารา (Nara) จังหวัดนารา (Nara Prefecture) ประเทศญี่ปุ่น 🇯🇵 🗾 🍵 ได้มีการพัฒนาให้กลายเป็นสวนสาธารณะและเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมอย่างเต็มตัวเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1880 เดิมรอบๆ 🏡☁️ เมืองนาราก็เป็นที่อยู่อาศัยของน้องกวางกว่า 1,200 ตัวอยู่แล้ว🦌🦌💨 จึงไม่แปลกหากสวนสาธารณะแห่งนี้จะกลายเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งของเหล่ากวางน้อยใหญ่ทั้งหลาย เพราะด้วยความร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์ และทิวทัศน์ที่สวยงาม🏙️🎇 ก็ทำให้สวนสาธารณะนาราเป็นแหล่งพักผ่อนที่ถูกใจทั้งชาวเมือง นักท่องเที่ยว และน้องกวาง🦌ไม่น้อยเลยค่ะ(/∇\*)。o○♡
9. วัดเบียวโดอิน⛩️ (Byodoin Temple : 平等院)
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)⛩️ สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอันในปี ค.ศ. 1052 หรือราวๆ 1,000 ปีมาแล้ว✨⛅🎇 และเป็นวัดที่ได้รับคัดเลือกจากยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่น หากมาจากสถานีรถไฟอุจิ (Uji Station)🚅💨 สามารถเดินไปถึงตัววัดได้เลยใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่หากใช้บริการรถบัส รถจะจอดที่ป้าย🚏🗾 🍵 Ujibashinishizume ใกล้ๆ กับสะพานอุจิ บริเวณปากถนนเบียวโดอิน โอโมเตะซันโด (Byodoin Omotesando)(人*´∀`) ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยของกินและช็อปยาวจนถึงทางเข้าวัดเบียวโดอินเลย👍👍👍
10. วัดเซ็นโซจิ⛩️ (Sensoji temple : 浅草寺)
วัดที่ถือเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมอันดับต้นๆคือวัดเซ็นโซจิ⛩️⛅ หรือหลายๆคนคุ้นกันในชื่อวัดโคมแดง โดดเด่นด้วยประตูทางเข้าวัดขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ประตูคามินาริ หรือ ประตูอสุนี🗾🌫️🪧 บนคานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร❕ วัดแห่งนี้มีความเชื่อว่าหากร่างกายได้สัมผัสควันธูป ร่างกายจะได้รับการฟื้นฟูไร้โรคภัยไข้เจ็บ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิวัดเซ็นโซจิเป็นสถานที่จัดเทศกาลที่ใหญ่ที่สุด ☁️🍂🪹 และได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียว🎌〰️ ผู้คนไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นเองหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะพากันหลั่งไหลมาที่วัดแห่งนี้ (*°∀°)=3👍👍👍
11. ศาลเจ้านิกโกะโทโชกุ⛩️ (Toshogu Shrine : 東照宮)
ศาลเจ้านิกโกโทโชกูเป็นสุสานของโทกุกาวะ อิเอยาซุ ผู้นำซามูไรที่โด่งดัง⛩️🥷 ㍿ โครงสร้างแกะสลักที่ประดับประดาอย่างงดงามนี้ทำให้ศาลเจ้าเป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโกเช่นเดียวกับศาลเจ้าและวัดหลายแห่งในนิกโก❕ รวมถึงเป็นจุดไฮไลท์สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมเยียนจังหวัดโทชิงิ🗾 🍵 สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่นี่คือ เจดีย์ศาลเจ้าห้าชั้นสูงใหญ่สีสันสวยงามและ ภาพแกะสลักดั้งเดิมที่เป็นต้นกำเนิดของหลักคำสอน “ไม่ฟัง ไม่พูด ไม่ดูสิ่งไม่ดี” 🎌〰️C4DBF0ศาลเจ้านิกโกโทโชกูเป็นสุสานของโทกุกาวะ อิเอยาซุ ผู้นำซามูไรที่โด่งดัง⛩️🥷 ㍿ โครงสร้างแกะสลักที่ประดับประดาอย่างงดงามนี้ทำให้ศาลเจ้าเป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโกเช่นเดียวกับศาลเจ้าและวัดหลายแห่งในนิกโก❕ รวมถึงเป็นจุดไฮไลท์สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมเยียนจังหวัดโทชิงิ🗾 🍵 สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่นี่คือ เจดีย์ศาลเจ้าห้าชั้นสูงใหญ่สีสันสวยงามและ ภาพแกะสลักดั้งเดิมที่เป็นต้นกำเนิดของหลักคำสอน “ไม่ฟัง ไม่พูด ไม่ดูสิ่งไม่ดี” 🎌〰️
12. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ⛩️ (Fushimi Inari Taisha : 伏見稲荷大社)
ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ⛩️ เป็นศาลเจ้าชื่อดังอันดับต้นๆของญี่ปุ่นที่มีไฮไลท์คือทางเข้าที่เป็นอุโมงค์เสาประตูโทริอินับพันต้นความยาว 4 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่จุดนี้🎌〰️ บริเวณรอบๆศาลเจ้ามีรูปปั้นและสัญลักษณ์เกี่ยวกับสุนัขจิ้งจอกมากมาย🦊🐾🍂 นอกจากมาไหว้ขอพรแล้วก็ยัง มีคุ้กกี้เสี่ยงทายให้ได้ลองเสี่ยง เรียกได้ว่าที่นี่เป็นต้นกำเนิดของคุ้กกี้เสี่ยงทายเลยก็ว่าได้ (∩˃o˂∩)♡ 🗾⛅❕
13. ป่าไผ่ซากาโนะ🎋 (Sagano Bamboo Forest : 嵯峨野竹林)
ป่าไผ่ซากาโนะ🎋 นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวของญี่ปุ่นที่คุณต้องหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง🗾⛅❕ ด้วยทัศนียภาพที่สวยและแปลกตาของป่าไผ่ซากาโนะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมป่าไผ่ตามทางเดินที่ได้จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมความสวยงามของป่าไผ่เป็นระยะทางถึง 500 เมตร🎌〰️ ซึ่งในระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับเสียงลำไผ่สีกันยามลมพัด นับเป็นเสียงธรรมชาติที่แสนไพเราะสุดจะบรรยาย🔊🔋🏕️
ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกย่องให้ป่าไผ่ซากาโนะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสียงที่ไพเราะที่ควรจะมาสัมผัสให้ได้สักครั้ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น🌳🍃🪺 ขอแนะนำว่าไม่ควร พลาดโอกาสไปสัมผัสอากาศแสนบริสุทธิ์และบรรยากาศที่แสนเงียบสงบของป่าไผ่ซากาโนะกันดูสักครั้ง (๑°꒵°๑)・*♡ 〰️
14. น้ำตกนาจิ🌊 (Nachi Fall : 那智の滝)
สัญลักษณ์ของเมืองนะชิคัตซึอุระ (Nashi-Katsuura Town) แห่งนี้ก็คือ “น้ำตกนาจิ (Nachi Falls)🌊🌊” สูง 133 เมตรที่ตกลงมาจากกลางป่าทึบดึกดำบรรพ์⛅💧🌫️ น้ำตกที่ไหลต่อเนื่องชั้นเดียวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นแห่งนี้พาเอาละอองที่ล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้รู้สึกเย็นสบายแม้ในช่วงกลางฤดูร้อน เมื่อมองขึ้นไปจากศาลเจ้าฮิโร (Hiro Shrine)⛩️〰️ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฐานน้ำตกแล้ว ไม่เพียงแต่จะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกแห่งนี้เท่านั้น หากแต่ยังจะได้รู้สึกสดชื่นราวกับน้ำตกได้ชำระล้างจิตใจให้สะอาดผ่องแผ้วไปด้วย (´▽`ʃƪ)♡ น้ำที่ไหลตกลงมานี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นยาอายุวัฒนะ”🙏🏞️☁️ ซึ่งสามารถดื่มได้จริง ใกล้กับน้ำตกแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดเซกันโทจิ (Seiganto-ji Temple) ที่งดงามโดดเด่นด้วยเจดีย์สามชั้นสีแดงชาดตัดกับน้ำตกนาจิ (Nachi Falls) 👍👍👍
15. ทะเลสาปโกชิคินุมะ🏞️ (Goshikinuma : 五色沼)
ทะเลสาปโกชิคินุมะ🌊 หรือ ทะเลสาบห้าสี (สีเขียวมรกต, สีน้ำเงินโคบอลต์, สีน้ำเงินสีเขียวขุ่น, สีฟ้ามรกตและสีฟ้า)🏞️☁️ ที่เกิดจากน้ำในแต่ละบึงเป็นความสวยงามจากธรรมชาติ (´ε` )♡ กิจกรรมที่เหล่านักท่องเที่ยวมักจะทำเมื่อไปทะเลสาปโกชิคินุมะนอกจากการไปชมความสวยงามของสีน้ำแล้ว👍👍👍 ยังมีกิจกรรมพายเรือชมวิวทิวทัศน์รอบๆ ทะเลสาบ สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ทุกฤดูโดยแต่ละฤดูจะสวยงามแตกต่างกันออกไป⛅💧🌫️
16. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ🌊 (Lake Kawaguchi : 河口湖)
🌊 ทะเลสาบคาวากูจิโกะ(Lake Kawaguchiko) เป็นทะเลสาบที่เดินทางไปถึงได้ง่ายที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ 🗾⛰️☁️ ซึ่งมีการเชื่อมต่อจากโตเกียวด้วยรถไฟ และรถบัส 🚅💨 พื้นที่บริเวณชายฝั่งทิศตะวันออกของทะเลสาบเป็นที่พัก และออนเซนที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามได้อย่างชัดเจน 🎍✨
มุมมองที่ดีที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ คือชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบ 🎌 🗻 🍵 โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระจำนวนมากเบ่งบานประมาณกลางเดือนเมษายน🌅🌸╰(✿´⌣`✿)╯♡ หนึ่งในจุดชมดอกซากุระคือพิพิธภัณฑ์คาวากูจิโกะมิวสิคฟอร์เรส(Kawaguchiko Music Forest) และฤดูใบไม้ร่วงประมาณครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤศจิกายนใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองสลับกัน ☁️🍂🪹
แต่อย่างไรก็ตามยอดภูเขาไฟฟูจิมักถูกบดบังด้วยเมฆในช่วงกลางวันแม้สภาพอากาศจะปกติ☁️☁️ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน🌞 ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเช้าของทุกๆวัน(ก่อน 9 โมงเช้า) และช่วงบ่ายเย็นๆ 🌡️🌫️🌊
17. หมู่บ้านโออุจิจูคุ🏠 (Ouchi Juku : 大内塾)
หมู่บ้านโออุจิจูคุเป็นเมืองสำหรับพักแรมระหว่างทาง🏠🌞☁️ เปิดเมื่อประมาณศตวรรษที่ 17 และได้รับเลือกให้เป็นกลุ่มอาคารที่สำคัญทางด้านวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น จากถนนที่เรียงรายไปด้วยบ้านหลังคามุงจาก คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศในยุคสมัยเอโดะ⛩️🥷 (⺣◡⺣)♡* และยังมีพื้นที่จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและเตาไฟที่บ่งบอกถึงประเพณีในสมัยนั้น ให้คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปในยุคนั้น 👍❤️🌳
นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับจุดชมวิว “หน้าผาหินโทโนะเฮทสึริ”⛅💧🌫️ ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น จึงอยากแนะนำให้ท่านแวะมาเยี่ยมชมไปพร้อมๆ กัน ✨🏞️
18. ชิราคาวาโกะ🏠 (Shirakawa-Go : 白川郷)
หมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ🏠 เป็นหมู่บ้านชาวนาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในเขตจังหวัดกิฟุ (Gifu) ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู (Honshu)🇯🇵 🗾 🎋 เป็นหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน (●´∀`)ノ♡ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยเทือกเขา🗻 และมีแม่น้ำไหลผ่าน⛅💧🌫️ นับได้ว่าเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 250 ปี จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ญี่ปุ่น โดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995 ✨👍❤️
19. ริมคลองโอตารุ🎏 (Otaru Canal Area : 小樽運河エリア)
🇯🇵 🗻 🍙 ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area) ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ถ้าไม่มาเหมือนมาไม่ถึงเมืองโอตารูเลย โดยริมคลองแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอตารุ ✨👍❤️ และก่อนที่จะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างในปัจจุบันนี้จริงๆแล้วก็มีประวัติความเป็นมายาวนานมากๆเลยค่ะ (*ˊૢᵕˋૢ*)❕ เพราะในอดีตเป็นท่าเรือที่คึกคักในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เรือลำใหญ่จะถ่ายสินค้าลงเรือลำเล็กและลำเลียงไปตามคลอง ต่อมาเมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมาขึ้น ก็สามารถขนส่งสินค้าผ่านเรือลำใหญ่โดยตรงได้เลย ⛅💧🌫️
💬 ที่สำคัญบางวันอย่างช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็อาจจะมีศิลปินมาโชว์ผลงานให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา บรรยากาศกลางคืนนี่บอเลยว่าอย่างงามเพราะจะมีการเปิดโคมไฟก๊าซโบราณ 〰️🏮❕ ก็ทำให้บรรยากาศริมคลองโรแมนติกขึ้น และยังเป็นที่จัดเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ(Otaru Snow Light Path Festival) ในฤดูหนาวอีกด้วยค่ะ 🎌 🗾 🍶
20. ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ🏠 (Kawagoe Little Edo : 川越小江戸)
gมืองเล็กๆ ในจังหวัดไซตามะ ❕💬 ใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการเดินทางจากโตเกียว🎌 🗾 🍶 ที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและบรรยากาศแบบย้อนยุค มีรถบัสดีไซน์เก๋วิ่งรอบเมือง🚅💨 มี Toki No Kane หรือ “หอระฆังโบราณ”🎑🔔 ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมือง และไฮไลท์ของที่นี่ที่รับรองว่าถูกใจทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน คือ เป็นแหล่งขนมหวาน มีตรอกขนมหวานที่เต็มไปด้วยร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันหวานญี่ปุ่น✨🥔 โมจิไส้ถั่วแดง🍡 ไอศกรีม Mix Soft Cream🍦 มันเหลืองและมันม่วง และอีกมากมาย อีกทั้งมีร้าเช่าชุดกิโมโน 🎎👘ให้ได้เช่าใส่ไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆในเมือง (ෆˊ͈ ु꒳ ूˋ͈ෆ) หากอยากสัมผัสบรรยากาศแบบย้อนยุคของญี่ปุ่นแล้วที่นี่ถือเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ต้องอยู่ในลิสต์ ✨👍❤️
21. ฟาร์มโทมิตะ🌳 (Farm tomita : ファーム富田)
🌳 ฟาร์มดอกไม้หรือทุ่งดอกไม้ยอดฮิตของเมืองฮอกไกโด🌻🌼🌷🪻 โดยดอกไม้ที่โด่งดังของที่นี่เป็นดอกลาเวนเดอร์ซึ่งจะบานในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม✨👍❤️ ส่วนในเดือนอื่นๆจะมี ดอกป๊อปปี้ ดอกลูปิน และดอกลิลลี่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ได้ชม💐🍃🎇 นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่นิยมมาถ่ายรูปคู่กับดอกไม้สีสันสดใสและมีฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ มีร้านกาแฟ มีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน 🇯🇵🌸 ㍿ หรือถ้านักท่องเที่ยวคนใดอยากเวิร์คช็อป ทางฟาร์มก็มีโซนสำหรับเวิร์คช็อป (灬♥ω♥灬) 🗺️☁️❕
22. โตเกียว ทาวเวอร์🗼 (Tokyo Tower : 東京タワー)
🎇 หอคอยสื่อสารที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว🗼🎇 สร้างขึ้นหลังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความสูง 332.6 เมตร หอคอยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ชั้นล่างสุดเป็น พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร (⺣◡⺣)♡* อีกสองส่วนเป็นจุดชมวิวของหอคอย 🗺️☁️ ซึ่งวิวด้านบนหอคอยสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก 🎌 🗾 🎐 ในช่วงกลางคืนหอคอยจะประดับประดาไปด้วยไฟสวยงามถึงแม้ว่าจะมองจากที่ไกลๆ ✨👍❤️
23. โตเกียวสกายทรี🗼 (Tokyo Sky Tree : 東京スカイツリー)
“โตเกียวสกายทรี”🗺️☁️ ที่สามารถมองเห็นได้จากทุกหนทุกแห่งของเมือง คือสัญลักษณ์ใหม่ของเมืองหลวงญี่ปุ่นแทน “โตเกียวทาวเวอร์”🗼 หากขึ้นไปชั้นบนสุด จะสามารถชมวิวเมืองและมองเห็นไปจนถึงที่ที่อยู่ไกลออกไป ถ้าเป็นวันอากาศดี จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิอยู่ไกลๆ ได้อย่างชัดเจนด้วย ✨👍❤️ ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าสไตล์โมเดิร์น “โตเกียว โซรามาจิ”🎌 🗾 ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และย่านร้านค้าหน้าตาย้อนยุค “ย่านร้านค้าชิตะมาจินินโจคิราคิราทาจิบานะ”❕ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่น่าสนใจมากมาย เรียกได้ว่าบริเวณ🍙 💹 🇯🇵 “โตเกียวสกายทรี” ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ที่มีดีแค่หอคอยเท่านั้น (´∩。• ᵕ •。∩`) ♡ ❕
24. หอคอยแห่งโกเบ🗼 (Kobe Port Tower : 神戸ポートタワー)
หอคอยแห่งโกเบ หรือ โกเบ พอตทาวเวอร์🗼 (Kobe Port Tower) เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโกเบ เป็นอาคารชมวิวสีแดงตั้งอยู่ริมทะเล ⛅💧🌫️ มีสถาปัตยกรรมแบบเกลียวเลียนแบบรูปทรงของกลองยาวของญี่ปุ่น และยังเป็นอาคารแรกของโลกที่มีรูปทรงแบบท่อ (Pipe Structure) อีกด้วย ♡^▽^♡❕
🗼 โกเบ พอตทาวเวอร์สูง 108 เมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นแรกเป็นที่จำหน่ายตั๋วและของที่ระลึกต่างๆ🗼 ชั้น 2 และ 3 จะเป็นร้านอาหาร ส่วนชั้น 4 และ 5 จะเป็นชั้นชมวิว ที่สามารถมองได้ 360 องศาเลย ทั้งตัวเมืองโกเบ, บริเวณท่าเรือ, ภูเขาร็อคโกะ(Rokko) และอ่าวโอซาก้า☁️☁️ ทำให้สามารถขึ้นมารอชมพระอาทิตย์ตกได้ด้วย 🌤️🗺️🌫️🌊
25. ย่านช็อปปิ้งชินจุกุ🍡 (Shinjuku : 新宿)
มาถึงญี่ปุ่น🎌 ถ้าไม่มาที่ย่านช็อปปิ้งชินย่านช็อปปิ้งชินจุกุ ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ (◍•ᴗ•◍)♡ ✧*。 ที่โด่งดังมากๆ ตลอดกาลคือย่านชินจุกุ ตั้งอยู่ใจกลางสถานีรถไฟชินจุกุ เป็นย่านที่มีแสงสี แสงไฟ คึกคักแม้ในยามค่ำคืน 🌃📌❕ นอกจากจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งแล้วยังมีสถานบันเทิงให้เหล่านักท่องราตรีได้ไปสัมผัส🍜 🍥 🍣 🍱 🍙 🍘 🍢 🍡 มีร้านอาหารและของกินอร่อยๆเพียบ (。♥‿♥。) มีห้างสรรพสินค้าหลายห้างให้ได้เลือกเดิน ไม่ว่าจะเป็น ห้างอิเซตัน ห้างเคโอ เรียกได้ว่าเพลิดเพลินกันอย่างแน่นอน 💬🌛⭐
26. ยูนิเวอร์แซลสตูดิ เจแปน 🇯🇵 (Universal Studio Japan : ユニバーサル・スタジオ・ジャパン)
🗾 Universal Studio Japan โดยแบ่งออกเป็น 9 โซน❕ คือ Hollywood, New York, San Francisco Jurassic Park, Amity Village, Water World, Universal Wonderland, Minion Park และ The Wizarding World of Harry Potter 🍥 🎐 🍡 แต่ละโซนก็จะมีเครื่องเล่นและความสนุกแตกต่างกันออกไป 💮( ˊᵕˋ )♡.°⑅ และโซนที่ยอดฮิตอย่างโซนของแฮรี่ พอตเตอร์ ก็มีของให้ได้เลือกซื้อหลากหลายไม่ว่าจะเป็น🎢🎡🎪 ไม้กายสิทธิ์ ผ้าพันคอ ลูกอมหลากรส รับรองว่าถูกใจสาวกแฮรี่อย่างแน่นอน ไปวันเดียวอาจจะเที่ยวได้ไม่ครบทุกโซน นักท่องเที่ยวที่จะไปอาจจะต้องวางแผนกันดีๆ 🎠⛰️❕
27. โตเกียวดิสนีย์ซี🌊 (Tokyo DisneySea : 東京ディズニーシー)
โตเกียวดิสนีย์ซี (ญี่ปุ่น: 東京ディズニーシー, อังกฤษ: Tokyo Disney Sea)🌊❕ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นครั้งแรกในส่วนต่อขยายของโตเกียวดิสนีย์แลนด์รีสอร์ต☁️🌫️ ตั้งอยู่ในเขตชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2544 ในพื้นที่รวมที่เรียกว่าโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท ♡٩(๑ö⊿ö๑)۶♡ มีแนวคิดหลักของพื้นที่เกี่ยวกับน้ำ💧💧💧 เช่น เมืองเวนีส ลำธารน้ำ ทะเล เรือไททานิก ถ้ำใต้น้ำในปล่องภูเขาไฟ เมืองในป่าดิบชื้นแถบอเมริกากลาง เงือกและเมืองบาดาล เป็นต้น 🌫️🌅💧🚝
28. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ โอกินาว่า🐋 (Okinawa churaumi aquarium : 沖縄美ら海水族館)
พิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ🐋 ตั้งอยู่บนเกาะโอกินาว่า ภายในมีทั้งหมด 4 ชั้น มีตู้ปลาขนาดใหญ่ที่สามารถจุน้ำทะเลได้ถึง 7,500 ลูกบาศก์เมตร มีฉลามวาฬตัวใหญ่สองตัวที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ให้ชม ♥(ˆ⌣ˆԅ) นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสัตว์น้ำที่หายากหลายชนิด ☁️🌫️ เรียกได้ว่าได้ใกล้ชิดกับโลกใต้น้ำแบบที่คาดไม่ถึง💙🐳🌫️ ด้านนอกตัวอาคารเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงโชว์ ไม่ว่าจะเป็นโชว์จากโลมา พยูน และมีศูนย์เพาะพันธุ์เต่าทะเลให้ได้แวะชม อีกหนึ่งที่เที่ยวของญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด (◍•ڡ•◍)❤ ถูกใจเด็กๆโดนใจผู้ใหญ่กลับไปอย่างแน่นอน ❕🌊🐬
29. Unicorn Gundam🤖 ณ โอไดบะ (Odaiba) : お台場
มีได้ไปถ่ายรูปยูนิคอร์นกันดั้ม (Unicorn Gundam🤖) กันดั้มตัวล่าสุด ที่ห้างไดเวอร์ซิตี้ (Diver City)❕🏢⛅ โอไดบะ(Odaiba) กันมาแล้วบ้างคะ (ღ˘⌣˘ღ) ตัวใหญ่สุดปัง สมคำร่ำลือ👍👍 เหตุที่เจ้า Unicorn Gundam ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม นั่นก็เพราะว่า สามารถแปลงร่างได้และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ 🤖🦿🦾
🇯🇵 การเดินทาง 🚅💨 : เดิน 5 นาทีจากสถานี “ไดบะ” (Daiba Station) สายยูริคาโมเมะ (Yurikamome Line)
หรือเดิน 3 นาทีจากสถานี “โตเกียวเทเลพอร์ท” (Tokyo Teleport Station) สายรินไก (Rinkai Line)💙🤍
30. สวนคาวาชิฟูจิการ์เด้น🪻 (Kawachi Fuji Garden : 河内藤園)
Kawachi Fuji Garden เป็นอุโมงค์วิสทีเรีย🌸🪻☁️ ที่ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชู และอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคิวชู ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจริงๆ ❕ แล้วที่นี่ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่นเลยนะคะ 🌅⛅🌼🌻 นอกจากนี้ Kawachi Fuji Garden ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น 🇯🇵 อีกด้วย ♡( •ॢ◡-ॢ)✧˖° ♡
🪻 อุโมงค์วิสทีเรีย ที่รายล้อมไปด้วยดอกวิสทีเรียมากกว่าหลายสายพันธุ์ มีทั้งสีม่วงเข้ม สีม่วงอ่อน สีชมพู และสีขาว ห้อยระย้าคลุมอุโมงค์เป็นทางยาวเกือบ 100 เมตร (人´ω`*)♡❕ ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ที่สวยงามเท่านั้น แต่ดอกวิสทีเรียยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่แทบทุกที่ 🎌 🎐 หากใครมาที่นี่ในช่วงปลายเดือนเมษายนยาวไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ทุกคนจะได้เห็นดอกวิสทีเรียจะออกดอกบานสะพรั่งอยู่ทั่วทุกบริเวณเลย 💜🪻💐🍃
(●♡∀♡) นี่เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนะคะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย และท่านไหนสนใจ อยากไปทัวร์ญี่ปุ่น ก็มาสามาถจองตั๋วได้เลยน้า ถือว่าช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เหมาะกับการเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นมากๆ เลยนะคะ 🎌🗼🎎