เวลาทำการ

จ.-ศ. 09.00 น.-19.00 น.
ส. 09.00 น.-13.00 น.

Hotline 1

061-635-4915

Hotline 2

089-874-5365

Hotline 3

02-871-9398

Call Center

02-871-9398

มัดรวม 10 ประเทศน่าเที่ยว เที่ยวง่าย งบน้อย ไม่ต้องขอวีซ่า!

มัดรวม 10 ประเทศน่าเที่ยว เที่ยวง่าย งบน้อย ไม่ต้องขอวีซ่า!

ใครอยากไปเที่ยวต่างประเทศบ้างยกมือขึ้นนนน🙋🏻‍♂️🙋🏻‍♀️ วันนี้ฟ้าสวยแทรเวลมีประเทศเที่ยวง่าย งบน้อย ค่าครองชีพถูก นอกจากนี้สำหรับท่านใดที่ถือพาสปอร์ตไทยยังสามารถเดินทางเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย จะมีประเทศอะไรกันบ้างไปดูกันเลยยย!

cr. canva pro

ประเทศจีน เป็นประเทศอันดับต้นๆที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นประเทศขนาดใหญ่ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมากตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ท่องเที่ยวผจญภัย เที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ประเทศจีนก็มีหมดครบครัน ทำให้จีนเป็นประเทศฮอตฮิตที่ผู้คนมักนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวนั่นเองโดย 3 อันดับที่ผู้คนมักนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่

cr. canva pro

อันดับ 3 : เซี่ยงไฮ้
เซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองศูนย์กลางความเจริญในด้านต่างๆ ทั้งด้าน เศรษฐกิจ การเงิน การค้า การลงทุน แฟชั่น และการท่องเที่ยว สถานที่เด่นๆที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเยี่ยมชม ได้แก่ ชมตึกที่สูงอันดับสองของโลก “เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์” ชมหอไข่มุก ไหว้พระทำบุญที่วัดหยกขาว หรือเดินเล่นช้อปปิ้งหาอะไรกินเพลินๆที่ย่านช้อปปิ้งนานกิง ถนนอู่เจียง และซินเทียนตี้ ก็นิยมเช่นกัน

cr. canva pro

อันดับ 2 : จางเจียเจี้ย
เมืองที่พลาดไม่ได้สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวผจญภัยกลางแจ้ง หรือชอบเที่ยวชมธรมชาติ ต้องห้ามพลาดที่นี่เลย เพราะจางเจียเจี้ยเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ที่มีอายุหลายร้อยปี ถ้ำหินงอกหินย้อย สระน้ำขนาดมหึมา น้ำตก ภูเขา ที่สวยงามมากมาย และไฮไลท์หลักๆของที่นี่ก็คือ สะพานกระจกที่ยาวและสูงที่สุดในโลก สามารถเดินข้ามสะพานและชมวิวที่อยู่ใต้เท้าของท่านได้ (แต่ไม่แนะนำสำหรับท่านใดที่กลัวความสูงนะคะ)

cr. canva pro

อันดับ 1 : ปักกิ่ง
เมืองหลวงของประเทศจีน คือ ปักกิ่ง หรือ เป่ยจิง เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเที่ยวจีน หรือคนที่อยากลองไปเที่ยวจีนดูสักครั้ง เพราะปักกิ่งมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น กำแพงเมืองจีน สนามกีฬาโอลิมปิกปี 2008 จตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังต้องห้าม เขาเซี่ยงซาน และอีกมากมาย เรียกได้ว่าครบครันในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ศาสนา วัฒนธรรมเก่าแก่ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และแหล่งช้อปปิ้ง

จีน ใช้สกุลเงิน หยวน
โดย 1 หยวน จะอยู่ที่ประมาณ 5.06 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

เวียดนามก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากไทยมากนัก และยังเป็นเมืองแห่งความสวยงามของศิลปะวัฒนธรรม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย น่าสนใจหลายแห่ง มีเมืองหลวงคือกรุงฮานอย และเมืองที่สำคัญเช่น นครโฮจิมินห์ ดานัง ไฮฟอง เป็นต้น โดยเวียดนามแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาค ได้แก่ เวียดนามเหนือ เวียดนามกลาง และเวียดนามใต้ แต่ละภูมิภาคก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น

cr. canva pro

เวียดนามเหนือ | กรุงฮานอย , ฮาลองเบย์ , ซาปา , นิงห์บิงห์
สถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ สุสานโฮจิมินห์ , โบสถ์เซนต์โจเซฟ , อ่าวฮาลอง , จตุรัสซาปา , ยอดเขาฟานซีปัน , หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต , สะพานแก้วมังกรเมฆ , เมืองนิงห์บิงห์ เป็นต้น

cr. canva pro

เวียดนามกลาง | ดานัง , ฮอยอัน
สถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ บานาฮิลล์ , สะพานทอง , สะพานมังกร , คาร์ฟดราก้อน , โบสถ์คริสต์ดานัง , วัดหลินอึ๋ง , ย่านเมืองเก่าฮอยอัน , สมาคมฮกเกี้ยน เป็นต้น

cr. canva pro

เวียดนามใต้ | ดาลัด , โฮจิมินห์ , มุยเน่
สถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ สวนดอกไฮเดรนเยีย , เครซี่เฮ้าส์ , วัดตั๊กลัม , โบสถ์นอร์ทเทรอดาม , โบสถ์ทันดินห์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโฮจีมินห์ , จุดชมวิว Saigon Skydeck อาคารไบเท็กโค , ทะเลทรายมุยเน่ เป็นต้น

เวียดนาม ใช้สกุลเงิน ดอง (VND)
โดย 1 VND เท่ากับ 0.001476 บาท
หรือ 1,000 VND เท่ากับ 1.48 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

ประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นศูนย์กลางพาณิชย์ที่สำคัญของโลกอีกแห่งหนึ่ง แม้จะเป็นเพียงประเทศเล็กๆแต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่แพ้ประเทศใหญ่ๆ และยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของชาวไทยในการเดินทางไปท่องเที่ยวทริปสั้นๆที่สิงคโปร์ โดยสิงคโปร์สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สภาพอากาศคล้ายกับภาคใต้ของไทย คือ ร้อนชื้น มีฝนตกตลอดทั้งปี แต่ฝนที่ตกมักจะตกเป็นระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น โดยช่วงที่ฝนตกน้อยคือ เดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน ส่วนช่วงที่มีฝนตกมากที่สุดมี 3 เดือนคือ พฤศจิกายน ธันวาคม และมกราคม ส่วนตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสิงคโปร์ ได้แก่

cr. canva pro

1.อ่าวมารีนา เป็นอ่าวที่ตั้งอยู่ในเขตเซนทรัล ของประเทศสิงคโปร์ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง ที่นี่มีทั้งโรงแรม สถานบันเทิง พื้นที่สาธารณะไว้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งขบวนพาเหรด หรืองานกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ และบริเวณอ่าวมารีนายังมีการจัดงานเทศกาลแสงสีทุกปี ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แสงสี ร้านค้าต่างๆ

cr. canva pro

2.เมอร์ไลออน พาร์ค รูปปั้นที่เป็นสัญลักษณ์ของสัตว์กึ่งปลากึ่งสิงโตนี้ คือสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ที่ใคร ๆ ก็จดจำได้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสิงคโปร์ จุดที่ใครมาสิงคโปร์ก็ต้องถ่ายรูปเช็คอิน

cr. canva pro

3.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. Aquarium เป็นอควาเรียมหรือศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำชื่อดังของประเทศสิงคโปร์ ตั้งอยู่บนเกาะ Sentosa ในโซน Marine Life Park ของ Resorts World Sentosa โดยความโดดเด่นของอควาเรียมแห่งนี้ก็คือเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสัตว์น้ำจัดแสดงอยู่กว่า 100,000 ตัว หรือ 800 สายพันธุ์ แบ่งสรรค์ออกเป็น 10 โซนด้วยกัน จึงไม่แปลกใจที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยจากทั่วโลกไม่ใช่เพียงแค่เด็กๆ ให้เข้ามารับความรู้และความเพลินเพลินในเวลาเดียวกัน 

สิงคโปร์ ใช้สกุลเงิน ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD)
1 SGD = 27.09 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

ญี่ปุ่น ประเทศในฝันของใครหลายคน ด้วยความเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งในแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป มีเมืองหลายหลายที่ผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เช่น โตเกียว , โอซากา , นาโกยา , ฟุกุโอกะ และ ซัปโปโร ซึ่งทุกเมืองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างชวนให้ประทับใจต่างกัน ยกตัวอย่าง เช่น

cr. canva pro

ฮอกไกโด | ซัปโปโร , นิเซโกะ , ฮาโกะดาเตะ , อะซะฮิคะวะ , คุชิโระ
สถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ เทศกาลหิมะซัปโปโร , นิเซะโกะสกีรีสอร์ท , สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า , พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร , โจซังเค ออนเซ็น , ฮาโกะดาเตะ , อุทยานแห่งชาติชิเระโทะโกะ เป็นต้น

cr. canva pro

คันโต | โตเกียว , คะนะงะวะ , ชิบะ , ไซตะมะ , อิบะระกิ , โทชิงิ , กุมมะ .
สถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ พระราชวังอิมพีเรียล , โตเกียวสกายทรี , ย่านชินจูกุ , ย่านชิบูย่า , Universal Studio Japan , Tokyo DisneySea เป็นต้น

cr. canva pro

โทไค | ยามานาชิ , ชิซุโอกะ , กิฟุ , ไอจิ , มิเอะ
สถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ ภูเขาไฟฟูจิ , สะพานแห่งความฝัน , ไร่ชาโอบุจิซะซะบะ , ปราสาทซัมปุ

ญี่ปุ่น ใช้สกุลเงิน เยน (JPY)
1 เยน = 0.24 บาท
100 เยน = 24.16 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

อีกหนึ่งประเทศยอดฮิตในการเดินทางมาท่องเที่ยวของชาวไทย ด้วยความที่เกาหลีใต้มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงทิวทัศน์ที่สวยงามในแต่ละฤดูกาล ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาหลีใต้ อีกทั้งเมืองหลวงของเกาหลีใต้ อย่างกรุงโซล ยังเป็นเมืองที่มีระบบคมนาคมดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเกาหลีใต้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในแต่ละฤดูกาลก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป โดยตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ยอดนิยม ได้แก่

cr. canva pro

โซล | หอคอยเอ็นโซล , จัตุรัสกวางฮวามุน , ตึกล็อตเต้เวิลด์ , สวนสนุกล็อตเต้ เวิลด์ , ย่านเมียงดง , พระราชวังคยองบกกุง , พระราชวังท็อกซู , หมู่บ้านบุกชอนฮันอก เป็นต้น

cr. canva pro

อินชอน | อินชอนไชน่าทาวน์ , สวนอินชอนแกรนด์ปาร์ค , สวนสนุกวอลมิ , เกาะคังฮวาโด เป็นต้น

cr. canva pro

ปูซาน | ปูซานทาวเวอร์ , สกายแคปซูลแฮอุนแด , หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน , ชายหาดควางอันลี เป็นต้น

เกาหลี ใช้สกุลเงิน วอน (KRW)
1 KRW = 0.027 บาท
1,000 KRW = 27.11 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

ไต้หวันเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย ค่าครองชีพไม่สูง ใกล้เคียงกับประเทศไทย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยอาหารละลานตารสชาติถูกปาก ชานมไข่มุกแบบต้นตำรับ ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ และยังได้ชื่อว่าเป็น “อัญมณีที่ซ่อนอยู่ของเอเชีย” เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แถมยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างลงตัวอีกด้วย โดยตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไต้หวันได้แก่

cr. canva pro

1.ตึกไทเป 101 ตึกสูงระฟ้า หนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวไต้หวัน เพราะตึกนี้เคยจัดให้เป็นตึกที่สูงที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2004-2010 ด้วยความสูง 101 ชั้นเหนือพื้นดิน และ 5ชั้นอยู่ใต้ดิน ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปกับตึกนี้ เรียกว่าใครมาไทเปแล้วไม่ถ่ายรูปกับไทเป101 ถือว่ามาไม่ถึงไทเป

cr. canva pro

2.ทะเลสาบสุริยันจันทรา หรือ Sun Moon Lake ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาไต้หวัน ทะเลสาบรายล้อมไปด้วยภูเขา ต้นไม้ และหมู่บ้านชนบท มีเส้นทางเดินเท้า แถมยังได้รับการขนานนามให้เป็น 1 ใน 13 พื้นที่ที่สวยที่สุดในไต้หวัน และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดด้วย ในสมัยก่อนบริเวณรอบๆจะมีเล็กๆอยู่มากมาย ส่วนในปัจจุบันมีวัด Wen Wu ซึ่งเป็นวัดสำคัญประจำทะเลสาบแห่งนี้ และมีการสร้างวัดอื่นๆตามมาภายหลัง

cr. canva pro

3.เมืองโบราณจิ่วเฟิน เป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจให้อนิเมะชื่อดัง จนกลายเป็นต้นแบบโรงอาบน้ำใน Spirit Away การ์ตูนญี่ปุ่นที่หลายๆ คนต่างก็รู้จัก ทำให้จิ่วเฟิ่นกลายเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตขึ้นมา ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้ง

ไต้หวัน ใช้สกุลเงิน ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (TWD)
1 TWD = 1.14 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆเช่นกันที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว แม้เกาะฮ่องกงจะได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุด แต่ฮ่องกงก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา , เชิงธรรมชาติ , เชิงประวัติศาสตร์ โดยตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนมักนิยมไปท่องเที่ยวกันได้แก่

cr. canva pro

1.ขึ้นกระเช้านองปิงไหว้พระใหญ่ลันเตา สายมูต้องถูกใจเพราะเป็นการเดินทางตะลุยไปไหว้พระใหญ่เกาะลันเตา หรือพระใหญ่เทียนถาน วัดโปลิน โดยการที่เราจะขึ้นไปนั้นจะต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้านองปิง โดยมีให้เลือก 2 แบบคือ แบบธรรมดา และแบบพื้นคริสตัลใสที่สามารถมองเห็นวิวด้านล่างได้อย่างชัดเจน สำหรับใครที่กลัวความสูงขอให้ระมัดระวังนะคะ หลังจากนั้นก็ขึ้นบันไดไปอีก 268 ขั้น เพื่อไปนมัสการองค์พระใหญ่อย่างใกล้ชิด

cr. canva pro

2.อ่าววิคตอเรีย จุดชมความสวยงามยามค่ำคืนของฮ่องกง หรือ อ่าววิคตอเรีย โดยยามค่ำคืนแสงไฟจากบนตึกสูงที่ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวจะส่งแสงสีที่สวยงาม และนอกจากนั้นยังต้องห้ามพลาดการชมโชว์ Symphony of Light โดยเป็นการแสดงแสง สี เสียง บนตึกทั้งสองฝั่ง โดยสามารถชมได้ทั้งฝั่งเกาลูนและฝั่งเกาะฮ่องกง ทุกวันเวลาสองทุ่มตรง รอบละ 15 นาที

cr. canva pro

3.ย่านไซกุง สำหรับใครที่อยากหาร้านอาหารทะเลอร่อยๆ แนะนำย่านไซกุงซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีอาหารทะเลให้ทุกท่านเลือกสรรอย่างหลากหลาย โดยเราสามารถเลือกวัตถุดิบจากบริเวณหน้าตู้ปลาด้านหน้าร้าน ใครอยากทานเมนูอะไรก็สามารถจิ้มได้เลย รับรองว่ารับประกันความสดและอร่อยแน่นอน

ฮ่องกง ใช้สกุลเงิน ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD)
1 HKD = 4.69 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

สำหรับใครที่อยากสัมผัสดินแดนสองทวีปที่ผสมผสานบรรยากาศแบบยุโรปและโซเวียต ด้วยงบน่ารักๆต้องมาที่นี่เลย ประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่สุดขอบทวีปเอเชีย เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งป่า เขา แม่น้ำ และที่เที่ยวจอร์เจียน่าเช็กอินมากมาย อย่างการไปตามรอยประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมอันแปลกตาต่างๆ โดยจอร์เจียเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศที่หลากหลาย แต่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยสถานที่ท่องเที่ยวในจอร์เจียที่มีชื่อเสียงมีตัวอย่างดังนี้

cr. canva pro

1.เทือกเขาคอเคซัส ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป โดยเทือกเขาแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เทือกเขาคอเคซัสใหญ่ และเทือกเขาคอเคซัสน้อย ตัดพาดผ่านระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย และอาร์เซอร์ไบจาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของเทือกเขาที่ตัดพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชียได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา

cr. canva pro

2.โบสถ์เกอเกติ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนอร์โธด็อกซ์ที่ถูกสร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ มีการออกแบบและก่อสร้างช่องประตูและหน้าต่างได้อย่างโดดเด่น จนได้รับการขนานนามว่าเป็นโบสถ์ที่มีความงดงามที่สุดในโลก

cr. canva pro

3.โรงละครเรโซกาเบรียลเซน โรงละครหุ่นเชิดแห่งแรกของเมืองทบิลิซี ที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมของตึกอาคารที่มีความน่าแปลกตา และสีสันที่สวยงามโดยเฉพาะหอนาฬิกาที่ในทุก ๆ ชั่วโมง เข็มนาฬิกาจะเลื่อนไปชี้ที่เลขโรมัน และรูปปั้นนางฟ้าจะเปิดออกมาทักทายผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในบริเวณนั้น พร้อมกับตีระฆังทุกต้นชั่วโมง โดยทางโรงละครมีการแสดงทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ การต่อสู้ในสตาลินกราด , เพชรของมาร์แชล เดอ ฟานต์, ฤดูใบไม้ร่วงยามใบไม้ผลิบาน และราโมนา

จอร์เจีย ใช้สกุลเงิน ลารี (GEL)
1 GEL = 14.05 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

รัสเซีย เป็นประเทศที่ปกคลุมพื้นที่เอเชียเหนือและพื้นที่กว่า40%ของยุโรป โดยมีเซนต์ปีเตอส์เบิร์กเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป โดย ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) ถือเป็นช่วง High Season ของรัสเซีย แม้จะเป็นฤดูร้อนก็ไม่ร้อนเหมือนที่ประเทศไทยแน่นอน หากอย่างได้อากาศกำลังเย็นสบายแนะนำช่วงฤดูร้อน แต่หากมาในฤดูหนาวจะถือเป็นช่วง Low Season เพราะที่นี่จะหนาวแบบสุดๆ อุณหภูมิลดต่ำถึง -20 องศาลงไป โดยสถานที่ท่องเที่ยวในรัสเซียมีตัวอย่างดังนี้

cr. canva pro

1.ทะเลสาบไบคาล เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ถ้าไปเยือนรัสเซีย ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเพราะเป็นทะเลสาบที่มีความเก่าแก่และเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์รวมถึงวิวัฒนาการยุคต่างๆ ของโลก และยังเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่กว้างใหญ่และมีความลึกที่สุดในโลกอีกด้วย

cr. canva pro

2.มหาวิหารเซนต์ไอแซค เป็นมหาวิหารที่สวยที่สุดในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่เดิมเป็นโบสถ์ไม้และได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นโบสถ์หินในสมัยพระเจ้าอเลกซานเดอร์ที่ 1 และยังเป็นโบส์ออร์โธดอกซ์แห่งเดียวที่ตกแต่งด้วยกระจกสีและยอดโดมที่ทำจากทองคำแท้กว่า 100 กิโลกรัม สถาปัตยกรรมการออกแบบและตกแต่งเป็นแบบเรเนซองส์และบาร็อก ภายในเต็มไปด้วยภาพวาดและงานศิลปะที่น่าสนใจอีกมากมาย

cr. canva pro

3.จัตุรัสแดง เป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตอันดับต้นๆ ของเมืองมอสโคว์ เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย พื้นที่บริเวณนี้เป็นลานหินโมเสกรูปทรงจตุรัสขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินแกรนิตและหินอ่อน และได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก

รัสเซีย ใช้สกุลเงิน รูเบิล (RUB)
1 RUB = 0.40 บาท
100 RUB = 39.50 บาท (เมษายน 2567)

cr. canva pro

หากอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวยุโรป แต่ไม่อยากเดินทางไกลต้องมาที่นี่เลย ตุรกี ดินแดนสองทวีป ได้แก่ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในทวีปเอเชีย โดยช่วงเวลาน่าเที่ยวของตุรกี คือ ช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไปนั่นเอง โดยที่เที่ยวยอดนิยมของตุรกีมีหลากหลายมากยกตัวอย่างเช่น

cr. canva pro

1.สุเหร่าสีน้ำเงิน หรือสุเหร่าสุลต่านอาเหม็ด ถือเป็นหนึ่งในสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสถาปัตยกรรมที่มีความวิจิตรงดงาม จนใครที่มาเที่ยวตุรกีก็จะต้องแวะมาชมความสวยงามของที่นี่

cr. canva pro

2.คัปปาโดเกีย เป็นสถานที่ล่องบอลลูนลมร้อนที่มีชื่อเสียงและได้รับการโหวตให้เป็นการล่องบอลลูนลมร้อนที่ดีที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง การล่องบอลลูนเหนือเมืองคัปปาโดเซียนักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามและน่าอัศจรรย์ของ “ดินแดนแหล่งปล่องไฟนางฟ้า” จากมุมสูง หากมาเที่ยวตุรกีแล้วพลาดการล่องบอลลูนก็คงจะเปรียบได้ว่ามาไม่ถึงตุรกี

cr. canva pro

3.อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เป็นอุโมงค์เก็บน้ำโบราณขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใต้เมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 532 ในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน เพื่อเป็นที่กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในพระราชวัง และสำรองไว้ใช้เมื่อเมืองถูกข้าศึกปิดล้อม ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ด้านในเต็มไปด้วยเสาที่มาจากซากอาคารที่เสียหายในสงคราม ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่ต้นเสา 3 จุด คือ เสาสลักรูปดวงตาปีศาจ เสาหัวเมดูซากลับหัว และเสาหัวเมดูซาตะแคงขวา ท่ามกลางบรรยากาศเปิดไฟสลัวๆ ชวนให้ที่นี่ดูมีมนต์ขลังอย่างมาก

ตุรกี ใช้สกุลเงิน ลีรา (TRY)
1 TRY = 1.14 บาท (เมษายน 2567)